
เสียงแห่งมานิ : สำรวจร่องรอยภาษาที่ไม่มีตัวอักษร
กลางผืนป่าลึกของภาคใต้ มีชุมชนเล็ก ๆ ที่ดำรงชีวิตเรียบง่ายและกลมกลืนไปกับธรรมชาติ พวกเขาคือ “มานิ” หรือที่บางคนเรียกว่า “ซาไก” กลุ่มชาติพันธุ์ที่สืบทอดภูมิปัญญาบรรพบุรุษผ่านเสียง มากกว่าผ่านตัวอักษร
ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม 2568 ทีมวิจัยจากโครงการศึกษารวบรวมองค์ความรู้กลุ่มชาติพันธุ์มานิในภาคใต้ เพื่อเผยแพร่ใน พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์มานิ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้ลงพื้นที่ศึกษาและบันทึกภาษามานิในเขตอำเภอป่าบอน และอำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง สิ่งที่ทำให้ภาษามานิโดดเด่น คือ เป็นภาษาพูดที่ไม่มีระบบเขียนเป็นของตนเอง การบันทึกเสียงสนทนาจึงเป็นหัวใจสำคัญของการเก็บข้อมูล
ภาษา: มากกว่าเครื่องมือสื่อสาร
เมื่อได้ฟังบทสนทนาของชาวมานิ ทีมวิจัยตระหนักว่า ภาษาไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการสื่อสาร แต่ยังสะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ และความผูกพันกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง หนึ่งในคำพูดของผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ตราตรึงใจคือ
“ป่าพูดกับเราเสมอ ถ้าเราฟังมัน”
คำกล่าวนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างชุมชนมานิกับสิ่งแวดล้อมของพวกเขา ทุกถ้อยคำที่เปล่งออกมาไม่ใช่แค่เสียงพูด แต่เป็นการบันทึกเรื่องราวผ่านความทรงจำและการถ่ายทอดปากต่อปาก
ภาษาที่ไร้ตัวอักษร กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลง
แม้ว่าภาษามานิจะคงอยู่มายาวนาน แต่โลกภายนอกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อชุมชนและวิถีชีวิตของพวกเขา การศึกษาภาษาและวัฒนธรรมของมานิในวันนี้ จึงเป็นเสมือนการรักษาสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรม ก่อนที่มันจะเลือนหายไปตามกาลเวลา
การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงทำให้ทีมวิจัยเข้าใจภาษามานิ แต่ยังทำให้ตระหนักว่า ทุกภาษามีคุณค่าในตัวเอง แม้จะไม่มีตัวอักษร แต่ก็มี “เสียง” ที่เล่าขานประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของผู้คนได้อย่างงดงาม